วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ที่มาของพิธีขอเงินจากพระจันทร์

ที่มาของการขอเงินจากพระจันทร์นั้น เป็นองค์ความรู้ที่สืบเนื่องมาจากครูโหร ที่มีนามว่า อ.จรัล พิกุล ผมได้มีโอกาสไปออกรายการไอทีวี วาไรตี้ โดยมีคุณสุภาพ คลี่ขจาย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ในวาระนั้น มีอ.จรัล พิกุล อีกท่านหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญ และหลังจากได้ไปออกรายการเรียบร้อยแล้ว ผมกับอาจารย์ก็ไปนั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารสีฟ้า แถว ๆ พหลโยธิน ท่านได้เล่าถึงเรื่องวันฟ้าเปิด หรือวันขอเงินจากพระจันทร์ และได้ให้ความรู้กับผมเรื่องนี้มามากมาย ผมก็นำมาเผยแพร่ให้กับศิษยานุศิษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ผ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารต่าง ๆ ที่ผมเป็นคอลัมนิสต์อยู่ ปรากฏว่าได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และเกิดผลดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เมื่อครั้งที่ผมมีโอกาสได้ไปเขียนในหนังสือคู่สร้างคู่สม มีคนส่งจดหมาย และโทรศัพท์มาถึงผมเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่า เมื่อทำแล้ว ประสบความสำเร็จ เป็นผลดี สำหรับท่านที่ยังไม่เห็นผล ก็ยังโทรมาบอกว่า รู้สึกดีที่ได้ทำ รู้สึกมีสติ ที่จะระลึกถึงการทำดี คิดดี พูดดี ใน 1 วันนั้นที่เป็นวันฟ้าเปิด ( ซึ่งในเดือนธันวาคม 2551 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 27 เวลา 19.15 น ) และยังบอกต่อไปยังเพื่อน ๆ ให้ได้ทำความดีในวันนั้น ถึงแม้จะยังไม่เห็นผล แต่ก็รู้สึกอิ่มเอิบที่ได้ทำดี ยังไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เหมือนเป็นการทำบุญโดยทางอ้อม แต่ในทุกคำถามที่ได้ถามมานั้น ก็คือ ขอแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติในวันฟ้าเปิด ผมก็เลยต้องมาเขียนอธิบายวิธีการขอเงินจากพระจันทร์ เพื่อเป็นของขวัญให้กับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามผลงานของผมลักษณ์ เรขานิเทศ เสมอมา โดยมีข้อมูลที่ชัดเจน เป็นลำดับดังต่อไปนี้ครับ

วิธีขอเงินจากพระจันทร์ 3 ภาค ปฐมบท
ในภาคปฐมบทนี้ ผมต้องเล่าผ่านวิธีการเขียนให้ท่านได้อ่านว่าควรจะต้องทำอย่างไร การขอเงินจากพระจันทร์นั้น ทำไปจึงต้องขอในวันจันทร์ดับ คงไม่ขยายความเพราะจะเป็นวิชาการมากเกินไป แต่เอาเป็นว่า ในวันพระจันทร์ดับ หรือวันขอเงินจากพระจันทร์นั้น เป็นวันที่ฟ้า หมายถึง สวรรค์ และพื้นภพของมนุษย์ พื้นภพของนาคา พื้นภพของนรก ทุกแดนภูมิจะมีประตูที่เปิด หรือในวันนั้น พระอาทิตย์ พระจันทร์ทำมุมที่เอื้อประโยชน์ ต่อมวลมนุษยชน และประชาชนโดยทั่วไป แต่ต้องมีวิธีที่จะทำให้เกิดประโยชน์ คือทำอย่างไรให้มีโชคลาภ หรือมีความสำเร็จเกิดขึ้น วิธีการก็คือ ในวันที่กำหนดให้เป็นวันขอเงินจากพระจันทร์นั้น ให้ท่านทั้งหลายทำใจให้สบาย วันนั้นการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร จนทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัว ไม่สมควรทำเด็ดขาด พยายามทำให้วันนั้นเป็นวันที่สงบ ราบเรียบ ในวันจันทร์ดับนั้นควรไปปฏิบัติธรรม ควรไปรับศีล ควรอยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่ สมณะชีพราหมณ์ แบบนี้จะเป็นมงคลอย่างมาก เป็นเรื่องที่ควรกระทำ และที่สำคัญก็คือ ในวันนี้นั้น พยายามที่จะทำในสิ่งที่ดี ที่ช่วยเกื้อกูล หรือเป็นบุญบารมีที่จะนำไปสู่การขอเงินจากพระจันทร์ ซึ่งจะอยู่ในช่วงที่สองว่า จะต้องทำอย่างไร แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือ ในวันจันทร์ดับนั้น ถ้าเป็นไปได้ ท่านต้องทำจิตให้สงบ เช้าควรไปทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ เพื่อจะได้มีอานิสงส์แห่งบุญ ที่จะไปเชื่อมต่อรอยบุญ และหากไม่มีโอกาสไปทำบุญกับพระที่วัด แต่คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยที่บ้าน ท่านก็สามารถไปกราบขอพรได้จากท่าน เพราะพ่อแม่ บุพการีนั้น ถือเป็นพรหม หรือเป็นพระพรหมผู้ให้กำเนิด ให้ท่านพูดดี ๆ กับเรา อวยชัยให้พรกับเรา แล้วท่านก็จะประสบความสุข ความสำเร็จตามที่ปรารถนา ทำให้มีพลังชีวิตที่จะต่อสู้กับอุปสรรค วันที่เป็นวันพระจันทร์ดับนั้น ควรหาโอกาสบริจาคทานให้แก่ผู้ยากไร้ ให้แก่บุคคลที่ขาด เมื่อท่านต้องการในเรื่องใด ขาดในเรื่องใดของชีวิต ก็ขอให้ทำบุญให้กับคนที่ขาดในเรื่องนั้น เช่น ท่านขาดความรัก ก็ทำบุญให้กับคนที่ขาดความรัก ที่บ้านเด็กกำพร้า ถ้าท่านต้องการที่พึ่งพา ก็ทำบุญที่บ้านพักคนชรา ทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ และประการสำคัญ ในวันจันทร์ดับนั้น ห้ามอย่างยิ่งที่จะให้ใครหยิบยืมสตางค์ อย่าให้ใครมาทวงหนี้ หรือพยายามอย่าให้มีเหตุการณ์ที่ไม่ดีทั้งหลายเกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นจะดำรงคงอยู่ไป 1 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันพระจันทร์ดับเลยทีเดียวครับ

ทุติยบท – พิธีการ
อันที่จริงแล้ว ท่านควรจะไปวัด เพื่อรับศีลจากพระ ถ้าไปไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ใช้ห้องพระ หรือพระพุทธรูปประจำบ้านเป็นประธานในการทำสิ่งที่ดีงาม ในวันนั้มีพิธีการดังนี้คือ -ในวันจันทร์ดับนั้น ท่านควรเปลี่ยนน้ำในหิ้งพระเสียใหม่ นำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา โดยเฉพาะดอกไม้ที่หอม ๆ -ในส่วนของเงิน ที่จะนำมาเป็นสื่อในการที่จะได้พบกับความสำเร็จ ท่านต้องนำเอาเงินที่เบิกออกมาจากธนาคาร กดออกมาจากเอทีเอ็ม หรือที่เก็บเอาไว้เอาออกมาให้ได้มากที่สุด เก็บใส่กระเป๋าสตางค์ที่ใช้เป็นประจำ และต้องตั้งใจด้วยว่า ในช่วงวันที่เป็นวันพระจันทร์ดับ ภายใน 1-2 วัน ห้ามใช้เงินในส่วนที่เก็บไว้ในกระเป๋านี้ ถ้าต้องใช้ให้แยกส่วนที่จะใช้ในวันนั้นต่างหาก อาจจะไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง ใส่ซอง เพื่อเป็นสิริมงคล และให้นำกระเป๋าที่เก็บเงินเอาไว้ ไปตั้งไว้ในพานหรือไปวางไว้บริเวณหน้าพระพุทธรูป หรือห้องพระประจำบ้าน - จากนั้นในช่วงเวลาจันทร์ดับ ให้ท่านสมาทานศีล 5 กล่าวดังนี้คือ ข้าพเจ้าขอสมาทานศีล 5 ข้อ 1 ข้าพเจ้าจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ข้อ 2 ข้าพเจ้าจะไม่ลักทรัพย์ของผู้อื่น ข้อ 3 ข้าพเจ้าจะไม่ผิดในลูกเขาเมียท่าน ข้อ 4 ข้าพเจ้าจะไม่โกหก ข้อ 5 ข้าพเจ้าจะไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมา หรือจะกล่าวสมาทานศีลก็ได้ โดยตั้ง นะโม 3 จบ แล้วสวดบทมะยังภันเต .......... หาคำสวดได้ในหนังสือสวดมนต์ ในวิธีการตรงนี้แหละครับ ที่จะทำให้ท่านมีความบริสุทธิ์โดยศีล และทำให้มีบารมี - เรื่องของบูชาจำเป็นหรือไม่ หลายท่านถามมามาก ถ้าท่านไม่สะดวก ให้ท่านทำบุญตามที่ได้แนะนำไปแล้วในช่วงปฐมบท แต่ถ้าท่านสะดวก เต็มใจที่จะทำ ก็สามารถตั้งของบวงสรวงบูชา (ที่กลางแจ้งภายในบริเวณบ้าน) อันประกอบด้วย ผลไม้ 5-9 อย่าง แล้วจุดธูปเทียนบูชา ณ เวลาจันทร์ดับ (ตามตารางที่ให้ไว้ในคาถาที่แนบมา) ถ้าไม่สะดวก ณ เวลาที่กำหนดมา ท่านสามารถทำได้ ก่อนหรือหลังเวลาหลักที่ให้มา ไม่เกิน 12 ชั่วโมง เช่น เวลาจันทร์ดับคือ 12.00 น. ถ้าไม่สะดวกเวลานั้น แต่ว่างช่วง 6 โมงเช้า ก่อนไปทำงาน ก็ถือว่าไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด เพราะอยู่ในระหว่าง 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาหลัก เช่นเดียวกันถ้าทำหลังเวลานั้น อาจจะเป็นหลังเลิกงาน ตอน 6 โมงเย็น ก็ได้เช่นกัน เพราะถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ดีตลอดวัน แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ต้องเป็นเวลาหลักที่ผมให้มา ขอให้เข้าใจตามนี้นะครับ จากนั้นท่านจึงเริ่มอธิษฐาน ซึ่งผมจะกล่าวในหัวข้อต่อไป เหตุผลของการดำเนินการในหัวข้อที่ 2 นั้น เพื่อสร้างบุญ สร้างบารมี การที่ท่านได้ไปทำบุญบริจาคทาน การที่ท่านได้รับศีล รับพรจากพระ หรือสมาทานศีลเองจากพระพุทธรูป จะทำให้ท่านมีพลังบารมีที่จะได้ประกาศ มีประกาศิตขออะไรก็ได้สมดังที่ปรารถนา

ตติยบท –วิธีการขอให้สัมฤทธิ์ผล
เมื่อท่านตั้งเครื่องบวงสรวงบูชาเรียบร้อยแล้ว หรือนั่งอยู่ในห้องพระกรณีไม่ได้เตรียมเครื่องบวงสรวง เมื่อสวดมนต์ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ให้ท่านสวดบทชุมนุมเทวดา “สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขิระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะ วัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันทุ เทวา ชะละถะละ วิสะเม ยักขะ คันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุฯธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตาธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตาฯ”
และให้ท่านกล่าวอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อ/นามสกุล ของท่าน) ขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตย์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลทั้งหลายให้เทพเทวา นาคาทุกหมู่เหล่า ตลอดถึงเทพพระอาทิตย์ เทพพระจันทร์ จงได้รับอานิสงส์แห่งผลบุญนี้ ที่ข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้โดยเร็วพลัน เมื่อได้รับผลบุญนี้แล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายประทานพรอันประเสริฐให้ข้าพเจ้ามีโชคลาภ มีเงินตราตามที่ปรารถนา จากสิ่งที่ทำด้วยความวิริยะอุตสาหะ ขอให้ได้รับความสำเร็จในเรื่องของการงาน ความสำเร็จในเรื่องความรัก ความสำเร็จในเรื่องของชีวิต .......................คุณจะขออะไร คุณก็อธิษฐานไป ให้อยู่ในกรอบของเหตุผล ศีลธรรมอันดีงาม บุญวาสนาเก่าที่คุณสร้าง จะมีส่วนเกื้อกูลให้เชื่อมต่อกับบุญปัจจุบัน บุญกุศลที่สร้างในปัจจุบัน จะมีเหตุให้เชื่อมต่อถึงผลที่ได้รับในปัจจุบัน เมื่ออธิษฐานแล้ว ก็อย่าลืมทิ้งท้ายว่า ขอให้พระอาทิตย์ และพระจันทร์นำพาโชคลาภและความสำเร็จ จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ได้สร้างสมมาแต่ในอดีต ปัจจุบัน เป็นพละปัจจัยทำให้มีความสุข สมหวังทุกประการ นับตั้งแต่วินาทีนี้ ตราบไปเมื่อหน้าเทอญ” ที่อธิษฐานแบบนี้ ถือเป็นการเร่งบุญ ไม่ให้บุญที่ทำนั้น ไปสะสมในชาติในภพอื่น พิธีการขอเงินจากพระจันทร์นั้น ถ้าท่านทำตามลำดับที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ถือว่าสัมฤทธิ์ผลที่สุด ส่วนท่านจะเปลี่ยนจากเงินเป็นล็อตเตอรี่ที่ไปซื้อมา เพื่อให้ถูกรางวัลก็ทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน การอธิษฐานขอเงินจากพระจันทร์ การอธิษฐานขอความสำเร็จจากพระจันทร์ ในเรื่องอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน สมหวังในเรื่องการงาน การเรียน ความรัก หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ท่านปรารถนา ขอให้ลองปฏิบัติดู จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับบุญหรือกรรมเก่าที่ได้สร้าง หรือสะสมเอาไว้ ถ้าท่านได้สร้างหรือสะสมเอาไว้มาก ก็มีโอกาสได้รับความสำเร็จมาก ถ้าสร้างไว้น้อย ก็ได้รับความสำเร็จน้อย ตรงนี้เป็นเรื่องที่แข่งกันไม่ได้ครับ เพราะเป็นเรื่องของวาสนาบารมี ส่วนบทขอพรจากพระอาทิตย์ พระจันทร์ บทขอพรจากพระสีวลี และขอพรจากพระนารายณ์นั้น ท่านสามารถดูตามแผ่นพับที่ผมแนบมาให้กับหนังสือเล่มนี้ ขอให้ท่านได้ลองปฏิบัติ ถือว่าเป็นมงคลสำหรับชีวิต ซึ่งผมจะกล่าวถึงในลำดับต่อไปครับ ที่สำคัญการขอจะสัมฤทธิ์ผลมากหรือน้อยนั้น จิตใจท่านต้องมีเมตตา ต้องยึดหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา หากท่านยิ่งเผยแพร่ความรู้ในเรื่องนี้ไปให้เพื่อน คนใกล้ตัว ไม่ว่าจะถ่ายเอกสาร หรือซื้อหนังสือเล่มนี้เป็นของขวัญให้คนที่รัก หรือครอบครัว เพื่อใช้ในการสร้างความสุข ความสำเร็จให้เกิดขึ้นในชีวิต จะเป็นอานิสงส์หนุนนำทำให้ท่านโชคดี หรือประสบความสำเร็จในการขอเงินจากพระจันทร์มากยิ่งขึ้นเป็นทวีเท่า เพราะฉะนั้นถ้าใครต้องการหนังสือเล่มนี้เพื่อเผยแพร่ ติดต่อได้ที่ คุณรุ่งนภา 0-1325-5573
หมายเหตุ : หากท่านที่ต้องการตั้งเครื่องบวงสรวงบูชาพระจันทร์ อันประกอบด้วยอาหารคาวหวาน ผลหมากรากไม้ ถ้าท่านจัดได้ ยิ่งเป็นการดี แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวก ก็ให้ไปทำบุญตามที่แนะนำ และอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้พระจันทร์ พร้อมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ก็ถือว่า เป็นการบวงสรวงบูชาอย่างหนึ่งเหมือนกัน เป็นสิ่งที่แทนกันได้ ก็ ในการจุดธูปไหว้พระจันทร์นั้น ต้องใช้ธูป 15 ดอก ตามกำลังของพระจันทร์ จะเป็นมงคล ขอให้เข้าใจตามนี้ เพราะมีคนโทรเข้ามามากเหลือเกิน ก็ต้องขอแนะนำเพิ่มเติมไว้เท่านี้ครับ

คัดลอกมาจากเว็ปของ อ.ลักษณ์ฯ ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: