วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

Central World


ตรุษจีน



ไม่ได้ไปไหนมาหรอก นอกจากเดินผ่านหน้าเอ็มโพเรี่ยมทุกวัน เห็นสวยดีก็เลยเก็บภาพมาฝาก อากาศเย็น ๆ บรรยากาศสวย ๆ


วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ที่มาของพิธีขอเงินจากพระจันทร์

ที่มาของการขอเงินจากพระจันทร์นั้น เป็นองค์ความรู้ที่สืบเนื่องมาจากครูโหร ที่มีนามว่า อ.จรัล พิกุล ผมได้มีโอกาสไปออกรายการไอทีวี วาไรตี้ โดยมีคุณสุภาพ คลี่ขจาย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ในวาระนั้น มีอ.จรัล พิกุล อีกท่านหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญ และหลังจากได้ไปออกรายการเรียบร้อยแล้ว ผมกับอาจารย์ก็ไปนั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารสีฟ้า แถว ๆ พหลโยธิน ท่านได้เล่าถึงเรื่องวันฟ้าเปิด หรือวันขอเงินจากพระจันทร์ และได้ให้ความรู้กับผมเรื่องนี้มามากมาย ผมก็นำมาเผยแพร่ให้กับศิษยานุศิษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ผ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารต่าง ๆ ที่ผมเป็นคอลัมนิสต์อยู่ ปรากฏว่าได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และเกิดผลดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เมื่อครั้งที่ผมมีโอกาสได้ไปเขียนในหนังสือคู่สร้างคู่สม มีคนส่งจดหมาย และโทรศัพท์มาถึงผมเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่า เมื่อทำแล้ว ประสบความสำเร็จ เป็นผลดี สำหรับท่านที่ยังไม่เห็นผล ก็ยังโทรมาบอกว่า รู้สึกดีที่ได้ทำ รู้สึกมีสติ ที่จะระลึกถึงการทำดี คิดดี พูดดี ใน 1 วันนั้นที่เป็นวันฟ้าเปิด ( ซึ่งในเดือนธันวาคม 2551 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 27 เวลา 19.15 น ) และยังบอกต่อไปยังเพื่อน ๆ ให้ได้ทำความดีในวันนั้น ถึงแม้จะยังไม่เห็นผล แต่ก็รู้สึกอิ่มเอิบที่ได้ทำดี ยังไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เหมือนเป็นการทำบุญโดยทางอ้อม แต่ในทุกคำถามที่ได้ถามมานั้น ก็คือ ขอแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติในวันฟ้าเปิด ผมก็เลยต้องมาเขียนอธิบายวิธีการขอเงินจากพระจันทร์ เพื่อเป็นของขวัญให้กับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามผลงานของผมลักษณ์ เรขานิเทศ เสมอมา โดยมีข้อมูลที่ชัดเจน เป็นลำดับดังต่อไปนี้ครับ

วิธีขอเงินจากพระจันทร์ 3 ภาค ปฐมบท
ในภาคปฐมบทนี้ ผมต้องเล่าผ่านวิธีการเขียนให้ท่านได้อ่านว่าควรจะต้องทำอย่างไร การขอเงินจากพระจันทร์นั้น ทำไปจึงต้องขอในวันจันทร์ดับ คงไม่ขยายความเพราะจะเป็นวิชาการมากเกินไป แต่เอาเป็นว่า ในวันพระจันทร์ดับ หรือวันขอเงินจากพระจันทร์นั้น เป็นวันที่ฟ้า หมายถึง สวรรค์ และพื้นภพของมนุษย์ พื้นภพของนาคา พื้นภพของนรก ทุกแดนภูมิจะมีประตูที่เปิด หรือในวันนั้น พระอาทิตย์ พระจันทร์ทำมุมที่เอื้อประโยชน์ ต่อมวลมนุษยชน และประชาชนโดยทั่วไป แต่ต้องมีวิธีที่จะทำให้เกิดประโยชน์ คือทำอย่างไรให้มีโชคลาภ หรือมีความสำเร็จเกิดขึ้น วิธีการก็คือ ในวันที่กำหนดให้เป็นวันขอเงินจากพระจันทร์นั้น ให้ท่านทั้งหลายทำใจให้สบาย วันนั้นการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร จนทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัว ไม่สมควรทำเด็ดขาด พยายามทำให้วันนั้นเป็นวันที่สงบ ราบเรียบ ในวันจันทร์ดับนั้นควรไปปฏิบัติธรรม ควรไปรับศีล ควรอยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่ สมณะชีพราหมณ์ แบบนี้จะเป็นมงคลอย่างมาก เป็นเรื่องที่ควรกระทำ และที่สำคัญก็คือ ในวันนี้นั้น พยายามที่จะทำในสิ่งที่ดี ที่ช่วยเกื้อกูล หรือเป็นบุญบารมีที่จะนำไปสู่การขอเงินจากพระจันทร์ ซึ่งจะอยู่ในช่วงที่สองว่า จะต้องทำอย่างไร แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือ ในวันจันทร์ดับนั้น ถ้าเป็นไปได้ ท่านต้องทำจิตให้สงบ เช้าควรไปทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ เพื่อจะได้มีอานิสงส์แห่งบุญ ที่จะไปเชื่อมต่อรอยบุญ และหากไม่มีโอกาสไปทำบุญกับพระที่วัด แต่คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยที่บ้าน ท่านก็สามารถไปกราบขอพรได้จากท่าน เพราะพ่อแม่ บุพการีนั้น ถือเป็นพรหม หรือเป็นพระพรหมผู้ให้กำเนิด ให้ท่านพูดดี ๆ กับเรา อวยชัยให้พรกับเรา แล้วท่านก็จะประสบความสุข ความสำเร็จตามที่ปรารถนา ทำให้มีพลังชีวิตที่จะต่อสู้กับอุปสรรค วันที่เป็นวันพระจันทร์ดับนั้น ควรหาโอกาสบริจาคทานให้แก่ผู้ยากไร้ ให้แก่บุคคลที่ขาด เมื่อท่านต้องการในเรื่องใด ขาดในเรื่องใดของชีวิต ก็ขอให้ทำบุญให้กับคนที่ขาดในเรื่องนั้น เช่น ท่านขาดความรัก ก็ทำบุญให้กับคนที่ขาดความรัก ที่บ้านเด็กกำพร้า ถ้าท่านต้องการที่พึ่งพา ก็ทำบุญที่บ้านพักคนชรา ทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ และประการสำคัญ ในวันจันทร์ดับนั้น ห้ามอย่างยิ่งที่จะให้ใครหยิบยืมสตางค์ อย่าให้ใครมาทวงหนี้ หรือพยายามอย่าให้มีเหตุการณ์ที่ไม่ดีทั้งหลายเกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นจะดำรงคงอยู่ไป 1 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันพระจันทร์ดับเลยทีเดียวครับ

ทุติยบท – พิธีการ
อันที่จริงแล้ว ท่านควรจะไปวัด เพื่อรับศีลจากพระ ถ้าไปไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ใช้ห้องพระ หรือพระพุทธรูปประจำบ้านเป็นประธานในการทำสิ่งที่ดีงาม ในวันนั้มีพิธีการดังนี้คือ -ในวันจันทร์ดับนั้น ท่านควรเปลี่ยนน้ำในหิ้งพระเสียใหม่ นำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา โดยเฉพาะดอกไม้ที่หอม ๆ -ในส่วนของเงิน ที่จะนำมาเป็นสื่อในการที่จะได้พบกับความสำเร็จ ท่านต้องนำเอาเงินที่เบิกออกมาจากธนาคาร กดออกมาจากเอทีเอ็ม หรือที่เก็บเอาไว้เอาออกมาให้ได้มากที่สุด เก็บใส่กระเป๋าสตางค์ที่ใช้เป็นประจำ และต้องตั้งใจด้วยว่า ในช่วงวันที่เป็นวันพระจันทร์ดับ ภายใน 1-2 วัน ห้ามใช้เงินในส่วนที่เก็บไว้ในกระเป๋านี้ ถ้าต้องใช้ให้แยกส่วนที่จะใช้ในวันนั้นต่างหาก อาจจะไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง ใส่ซอง เพื่อเป็นสิริมงคล และให้นำกระเป๋าที่เก็บเงินเอาไว้ ไปตั้งไว้ในพานหรือไปวางไว้บริเวณหน้าพระพุทธรูป หรือห้องพระประจำบ้าน - จากนั้นในช่วงเวลาจันทร์ดับ ให้ท่านสมาทานศีล 5 กล่าวดังนี้คือ ข้าพเจ้าขอสมาทานศีล 5 ข้อ 1 ข้าพเจ้าจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ข้อ 2 ข้าพเจ้าจะไม่ลักทรัพย์ของผู้อื่น ข้อ 3 ข้าพเจ้าจะไม่ผิดในลูกเขาเมียท่าน ข้อ 4 ข้าพเจ้าจะไม่โกหก ข้อ 5 ข้าพเจ้าจะไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมา หรือจะกล่าวสมาทานศีลก็ได้ โดยตั้ง นะโม 3 จบ แล้วสวดบทมะยังภันเต .......... หาคำสวดได้ในหนังสือสวดมนต์ ในวิธีการตรงนี้แหละครับ ที่จะทำให้ท่านมีความบริสุทธิ์โดยศีล และทำให้มีบารมี - เรื่องของบูชาจำเป็นหรือไม่ หลายท่านถามมามาก ถ้าท่านไม่สะดวก ให้ท่านทำบุญตามที่ได้แนะนำไปแล้วในช่วงปฐมบท แต่ถ้าท่านสะดวก เต็มใจที่จะทำ ก็สามารถตั้งของบวงสรวงบูชา (ที่กลางแจ้งภายในบริเวณบ้าน) อันประกอบด้วย ผลไม้ 5-9 อย่าง แล้วจุดธูปเทียนบูชา ณ เวลาจันทร์ดับ (ตามตารางที่ให้ไว้ในคาถาที่แนบมา) ถ้าไม่สะดวก ณ เวลาที่กำหนดมา ท่านสามารถทำได้ ก่อนหรือหลังเวลาหลักที่ให้มา ไม่เกิน 12 ชั่วโมง เช่น เวลาจันทร์ดับคือ 12.00 น. ถ้าไม่สะดวกเวลานั้น แต่ว่างช่วง 6 โมงเช้า ก่อนไปทำงาน ก็ถือว่าไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด เพราะอยู่ในระหว่าง 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาหลัก เช่นเดียวกันถ้าทำหลังเวลานั้น อาจจะเป็นหลังเลิกงาน ตอน 6 โมงเย็น ก็ได้เช่นกัน เพราะถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ดีตลอดวัน แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ต้องเป็นเวลาหลักที่ผมให้มา ขอให้เข้าใจตามนี้นะครับ จากนั้นท่านจึงเริ่มอธิษฐาน ซึ่งผมจะกล่าวในหัวข้อต่อไป เหตุผลของการดำเนินการในหัวข้อที่ 2 นั้น เพื่อสร้างบุญ สร้างบารมี การที่ท่านได้ไปทำบุญบริจาคทาน การที่ท่านได้รับศีล รับพรจากพระ หรือสมาทานศีลเองจากพระพุทธรูป จะทำให้ท่านมีพลังบารมีที่จะได้ประกาศ มีประกาศิตขออะไรก็ได้สมดังที่ปรารถนา

ตติยบท –วิธีการขอให้สัมฤทธิ์ผล
เมื่อท่านตั้งเครื่องบวงสรวงบูชาเรียบร้อยแล้ว หรือนั่งอยู่ในห้องพระกรณีไม่ได้เตรียมเครื่องบวงสรวง เมื่อสวดมนต์ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ให้ท่านสวดบทชุมนุมเทวดา “สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขิระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะ วัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันทุ เทวา ชะละถะละ วิสะเม ยักขะ คันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุฯธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตาธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตาฯ”
และให้ท่านกล่าวอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้า (ชื่อ/นามสกุล ของท่าน) ขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตย์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลทั้งหลายให้เทพเทวา นาคาทุกหมู่เหล่า ตลอดถึงเทพพระอาทิตย์ เทพพระจันทร์ จงได้รับอานิสงส์แห่งผลบุญนี้ ที่ข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้โดยเร็วพลัน เมื่อได้รับผลบุญนี้แล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายประทานพรอันประเสริฐให้ข้าพเจ้ามีโชคลาภ มีเงินตราตามที่ปรารถนา จากสิ่งที่ทำด้วยความวิริยะอุตสาหะ ขอให้ได้รับความสำเร็จในเรื่องของการงาน ความสำเร็จในเรื่องความรัก ความสำเร็จในเรื่องของชีวิต .......................คุณจะขออะไร คุณก็อธิษฐานไป ให้อยู่ในกรอบของเหตุผล ศีลธรรมอันดีงาม บุญวาสนาเก่าที่คุณสร้าง จะมีส่วนเกื้อกูลให้เชื่อมต่อกับบุญปัจจุบัน บุญกุศลที่สร้างในปัจจุบัน จะมีเหตุให้เชื่อมต่อถึงผลที่ได้รับในปัจจุบัน เมื่ออธิษฐานแล้ว ก็อย่าลืมทิ้งท้ายว่า ขอให้พระอาทิตย์ และพระจันทร์นำพาโชคลาภและความสำเร็จ จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ได้สร้างสมมาแต่ในอดีต ปัจจุบัน เป็นพละปัจจัยทำให้มีความสุข สมหวังทุกประการ นับตั้งแต่วินาทีนี้ ตราบไปเมื่อหน้าเทอญ” ที่อธิษฐานแบบนี้ ถือเป็นการเร่งบุญ ไม่ให้บุญที่ทำนั้น ไปสะสมในชาติในภพอื่น พิธีการขอเงินจากพระจันทร์นั้น ถ้าท่านทำตามลำดับที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ถือว่าสัมฤทธิ์ผลที่สุด ส่วนท่านจะเปลี่ยนจากเงินเป็นล็อตเตอรี่ที่ไปซื้อมา เพื่อให้ถูกรางวัลก็ทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน การอธิษฐานขอเงินจากพระจันทร์ การอธิษฐานขอความสำเร็จจากพระจันทร์ ในเรื่องอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน สมหวังในเรื่องการงาน การเรียน ความรัก หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ท่านปรารถนา ขอให้ลองปฏิบัติดู จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับบุญหรือกรรมเก่าที่ได้สร้าง หรือสะสมเอาไว้ ถ้าท่านได้สร้างหรือสะสมเอาไว้มาก ก็มีโอกาสได้รับความสำเร็จมาก ถ้าสร้างไว้น้อย ก็ได้รับความสำเร็จน้อย ตรงนี้เป็นเรื่องที่แข่งกันไม่ได้ครับ เพราะเป็นเรื่องของวาสนาบารมี ส่วนบทขอพรจากพระอาทิตย์ พระจันทร์ บทขอพรจากพระสีวลี และขอพรจากพระนารายณ์นั้น ท่านสามารถดูตามแผ่นพับที่ผมแนบมาให้กับหนังสือเล่มนี้ ขอให้ท่านได้ลองปฏิบัติ ถือว่าเป็นมงคลสำหรับชีวิต ซึ่งผมจะกล่าวถึงในลำดับต่อไปครับ ที่สำคัญการขอจะสัมฤทธิ์ผลมากหรือน้อยนั้น จิตใจท่านต้องมีเมตตา ต้องยึดหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา หากท่านยิ่งเผยแพร่ความรู้ในเรื่องนี้ไปให้เพื่อน คนใกล้ตัว ไม่ว่าจะถ่ายเอกสาร หรือซื้อหนังสือเล่มนี้เป็นของขวัญให้คนที่รัก หรือครอบครัว เพื่อใช้ในการสร้างความสุข ความสำเร็จให้เกิดขึ้นในชีวิต จะเป็นอานิสงส์หนุนนำทำให้ท่านโชคดี หรือประสบความสำเร็จในการขอเงินจากพระจันทร์มากยิ่งขึ้นเป็นทวีเท่า เพราะฉะนั้นถ้าใครต้องการหนังสือเล่มนี้เพื่อเผยแพร่ ติดต่อได้ที่ คุณรุ่งนภา 0-1325-5573
หมายเหตุ : หากท่านที่ต้องการตั้งเครื่องบวงสรวงบูชาพระจันทร์ อันประกอบด้วยอาหารคาวหวาน ผลหมากรากไม้ ถ้าท่านจัดได้ ยิ่งเป็นการดี แต่สำหรับท่านที่ไม่สะดวก ก็ให้ไปทำบุญตามที่แนะนำ และอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้พระจันทร์ พร้อมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ก็ถือว่า เป็นการบวงสรวงบูชาอย่างหนึ่งเหมือนกัน เป็นสิ่งที่แทนกันได้ ก็ ในการจุดธูปไหว้พระจันทร์นั้น ต้องใช้ธูป 15 ดอก ตามกำลังของพระจันทร์ จะเป็นมงคล ขอให้เข้าใจตามนี้ เพราะมีคนโทรเข้ามามากเหลือเกิน ก็ต้องขอแนะนำเพิ่มเติมไว้เท่านี้ครับ

คัดลอกมาจากเว็ปของ อ.ลักษณ์ฯ ค่ะ

สุริยุปราคา 26 มกราคม 2552

http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/200901ase.html

คำเตือน : อย่าจ้องดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าหรือผ่านกล้องดูดาวที่ไม่มีแผ่นกรองแสง เพราะจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อดวงตาของคุณและอาจทำให้ตาบอดได้!

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2552 ซึ่งตรงกับวันตรุษจีนและเป็นวันเดือนดับ ดวงจันทร์เคลื่อนมาอยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน อันเนื่องมาจากวันนั้นดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ ประเทศไทยสามารถสังเกตสุริยุปราคาครั้งนี้ได้ในช่วงเวลาบ่ายถึงเย็น โดยดวงจันทร์บดบังเพียงบางส่วนของดวงอาทิตย์
เส้นทางสุริยุปราคาวงแหวนครั้งนี้ส่วนใหญ่อยู่ในทะเล เงามืดของดวงจันทร์เริ่มสัมผัสผิวโลกเวลา 13.06 น. (เวลาประเทศไทย) ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นั่นเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนาน 5 นาที 44 วินาที ขณะดวงอาทิตย์ขึ้น จากนั้นเงามืดเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก เข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย จุดที่เห็นสุริยุปราคาวงแหวนนานที่สุดอยู่ในมหาสมุทรด้วยระยะเวลานาน 7 นาที 56 วินาที
เงามืดเคลื่อนต่อไป ผ่านหมู่เกาะคอคอสในมหาสมุทรอินเดีย เป็นหมู่เกาะขนาดเล็กในเครือรัฐออสเตรเลีย และถึงทางใต้ของเกาะสุมาตรากับด้านตะวันตกของเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ในเวลาประมาณ 16.37 น. กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย อยู่นอกเขตสุริยุปราคาวงแหวนโดยห่างลงไปทางใต้ของเส้นทางสุริยุปราคาวงแหวน
เงามืดเคลื่อนต่อไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านช่องแคบกะริมาตา พาดผ่านเกาะบอร์เนียวกับบางส่วนทางตอนเหนือของเกาะเซลีเบส สุริยุปราคาวงแหวนสิ้นสุดในเวลา 16.52 น. เป็นจังหวะที่ศูนย์กลางเงาหลุดออกจากผิวโลกในทะเลเซลีเบส ตรงบริเวณกึ่งกลางระหว่างเกาะเซลีเบสของอินโดนีเซียกับเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ ที่นั่นเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนาน 5 นาที 40 วินาที ขณะดวงอาทิตย์ตก
แผนที่แสดงบริเวณที่มองเห็นสุริยุปราคา 26 มกราคม 2552
บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วนครอบคลุมทางใต้ของทวีปแอฟริกา มาดากัสการ์ บางส่วนของแอนตาร์กติกา ตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย (ยกเว้นแทสเมเนีย) รวมไปถึงบางส่วนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่
ประเทศไทยอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเห็นสุริยุปราคาครั้งนี้ได้โดยต้องใช้แผ่นกรองแสงเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ หรือสังเกตการณ์ทางอ้อม เช่น ดูภาพสะท้อนบนผนังผ่านกระจกที่ทำหน้าที่คล้ายกล้องรูเข็ม ดวงจันทร์เริ่มบังดวงอาทิตย์ในช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่สูงประมาณ 30-40 องศา และดำเนินไปจนกระทั่งดวงอาทิตย์ใกล้ตกลับขอบฟ้า ภาคใต้ตอนล่างเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากกว่าภาคอื่น ๆ ซึ่งตรงข้ามกับสุริยุปราคาเมื่อเดือนสิงหาคม 2551 ที่เงามืดพาดผ่านเหนือประเทศไทยขึ้นไป เวลาที่เกิดปรากฏการณ์ก็จะแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยเริ่มเวลาประมาณ 16.00 น. และสิ้นสุดในเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะบังเต็มที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. โดยจะเห็นดวงอาทิตย์แหว่งทางซ้ายมือค่อนไปทางด้านบน หลายจังหวัดทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน จะยังคงเห็นดวงอาทิตย์แหว่งอยู่เล็กน้อยในจังหวะที่ดวงอาทิตย์ตกดิน
ดวงอาทิตย์ที่มองเห็นได้จากที่ต่าง ๆ ขณะดวงจันทร์เข้าบังเต็มที่
ขั้นตอนการเกิดสุริยุปราคา 26 มกราคม 2552
หาอ่านเพิ่มเติมได้จากลิงค์ที่ให้มานะคะ

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

บริษัท กามเทพ จำกัด

ทางบริษัทขอขอบคุณท่านที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความรัก 'Model LOVE'
จากบริษัทเรา โปรดอ่านคู่มือการใช้งานนี้ให้เข้าใจก่อนที่จะใช้งาน

1. สิ่งที่ท่านจะได้รับมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์นี้
(1.) หัวใจ 1 ชุด
(2.) พลังงานความมั่นใจ 1 ก้อน
(3.) แท่นชาร์จความจริงใจ 1 แท่น
(4.) สายความซื่อสัตย์ 1 เส้น
อุปกรณ์เสริม 'การให้อภัย' และ 'การยอมรับซึ่งกันและกัน' ไม่ได้รวมมาในชุดพื้นฐานนี้
ท่านสามารถหาซื้อเพิ่มเติมได้ภายหลังจากตัวแทนจำหน่าย

2.. เริ่มต้นใช้งาน

- เปิดหัวใจออกให้กว้างที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
- ใส่ความมั่นใจเข้าไปที่ด้านหลังเครื่อง ดูขั้วบวกขั้วลบให้ถูกต้อง
- หากท่านใส่ความมั่นใจผิดขั้ว มันอาจจะส่งผลให้เสียความมั่นใจ
- หรือไม่ก็มั่นใจเกินกว่าเหตุ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
- มันทำให้ระบบทำงานไม่สมบูรณ์
- วางหัวใจที่ใส่ความมั่นใจลงไปแล้ว ลงบนแท่นชาร์จความจริงใจ ต่อด้วยสายความซื่อสัตย์
- จากนั้นชาร์จความจริงใจลงไปในหัวใจให้มากที่สุด
ในช่วงเริ่มต้นของความรัก
ท่านอาจจะต้องใช้เวลาในการเติมความจริงใจนานกว่าปกติ
เพื่อให้มีพลังไปหล่อเลี้ยงความมั่นใจได้เพียงพอในการเริ่มต้นใช้งาน
ในการชาร์จครั้งแรก หากสายความซื่อสัตย์หลุด
ระบบอาจจะเสียหายสมบูรณ์ได้

3.. วิธีใช้งาน
ง่ายๆ มอบหัวใจที่ใส่ความมั่นใจและความจริงใจลงไปเต็ม แล้วให้แก่ใครก็ได้ที่คุณต้องการ

ถ้าเขามีคลื่นความรักที่ตรงกับคุณ ความรักจะปรับจูนจนติด แค่เนี้ยะก็เสร็จแล้ว

4.. ข้อผิดพลาดและวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น
(1.) ส่ง 'ความรัก' ออกไปแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง
การแก้ไข : ตรวจสอบว่าใส่ความมั่นใจลงไปแล้วหรือยัง
ตรวจสอบว่าชาร์จความจริงใจลงไปเต็มที่แล้วหรือไม่
ตรวจสอบว่าสายความซื่อสัตย์นั้นต่ออยู่อย่างถูกต้องหรือไม่
(2.) ทำความรักตกลงบนพื้น เกิดอาการช็อตและความร้อนขึ้น
ความรักที่ตกลงพื้นแล้วครั้งหนึ่ง อาจจะแก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์เสริม
'การให้อภัย' อย่างไรก็ตาม ความรักที่ตกพื้นแล้ว แม้ยังไม่แตก
แต่ก็มีรอยร้าวเป็นตำหนิได้ และความมั่นใจอาจจะลดลงไปจนเกือบหมด
ให้ชาร์จความจริงใจเพิ่มลงไปให้มากที่สุด โดยใช้ร่วมกับ 'การให้อภัย'
(3.) เกิดความต่างศักย์ระหว่างความรักมากจนไม่สามารถจูนคลื่นติดได้
ลองเปิดใจเพื่อจูนคลื่นใหม่ หากไม่ได้ผล ควรใช้อุปกรณ์เสริม
'การยอมรับซึ่งกันและกัน' แต่หากใช้แล้วก็ยังไม่ได้ผลอยู่อีก
ควรปิดสวิตช์ฉุกเฉิน 'ตัดใจ' เพราะมิเช่นนั้น
ความต่างศักย์อาจจะช็อตให้ความรักของคุณเสียหายได้

5.. ข้อจำกัดการรับประกัน
บริษัทขอสงวนสิทธิในการไม่รับประกันหรือไม่รับซ่อมหัวใจที่เสียหาย
ในกรณีที่ผู้ใช้พยายามนำความรักไปยัดเยียดให้บุคคลที่เขาไม่ต้องการ
หรือพยายามจูนเข้ากับความรักที่ต่างศักย์กันมากๆ จนมีปัญหาเข้ากันไม่ได้
ความเสียหาย แตกหัก หรือการทำงานผิดพลาดของความรักในเหตุดังกล่าวนี้
ถือเป็นความบกพร่องของผู้ใช้งานเอง

6.. คำเตือน
เคยมีรายงานว่า ความรักอาจจะมีผลกระทบทำให้คนตาบอด
หูหนวก หรือตาฝ้าฟางได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็น
ความรักอาจจืดจางได้หากอยู่ห่างไกลด้วยระยะทาง
หรืออยู่นอกพื้นที่บริการ
หวังว่าทุกท่านคงมีความสุขกับผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ภาคภูมิใจของเราของเรา..
บริษัท 'กามเทพ' จำกัด (The Cupid Inc.)

กว่าจะรู้


วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

จดหมายสมัครงาน

มีเพื่อนฝากงานให้เด็ก ก็เลยเอาให้เพื่อน ๆ ดู เผื่อใครสนใจจ้างพนักงานใหม่ สำหรับยุคเศรษฐกิจรุ่งริ่ง จ้า

หวัดดีคะ คุนผู้จัดกาน

นู๋ชื่อ ฉัยลัย นามกุน ซะไม่มี นะค่ะ
แบบว่า นู๋เห็นปะกาดในนั๋งสือพิม แบบว่า บอษัทของคุนผู้จัดกานต้องกานเรขา
นู๋ก้อเรยเขนจดม๋ายมาหมักคะ
นู๋เขนม่ายเก่งคะ แต่นู๋พิมดีดด้วยนิ้วชี้ได้เรวมากมายคะ แถมนู๋คิดเรขได้เรวโคดอีกตังหักคะ
ผู้จัดกานจาให้เงินเดินนู๋กี่ตัง ก้อแล้วแต่ผู้จัดกานจาพิจานาคะ
นู๋ก๊อ แบบว่า หยากทัมงาน นะ บัดนาวคะ
ไอ่เพิ่นนู๋ มันมาอ่าน แร้วมันบ๊อกว้า จดม๋ายหมักงานของนู๋สั่นไป
นู๋ก้อเรยแปะลูปปลากอบมาด้วยคะ
นับทือมากมายคะ



ฉัยลัย ซะไม่มี
ลูปนู๋คะ


จดหมายตอบจากผู้จัดการ
...
ถึง คุณ ไฉไล ซะไม่มี

ที่คุณบอกว่า เขียนไม่เก่งนั้น ไม่ต้องกังวล
บริษัทของเรา มีโปรแกรมแก้คำผิดที่มีสมรรถภาพ
ตำแหน่งเลขาฯที่คุณต้องการ เป็นของคุณแล้ว
กรุณามาเริ่มทำงานได้ตั้งแต่เช้าตรู่ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

ลงชื่อ ********* ผู้จัดการ


จดหมายด่วนถึงผู้จัดการ
จาก ประธานบริษัท


ผมได้พิจารณา resume ของคุณฉัยลัย ซะไม่มี จากคนสนิทของผมแล้ว

ผมรู้สึกประทับใจในรูปสมบัติ และคุณสมบัติของเธอเป็นอันมาก
(รูปถ่ายเล็กไปหน่อยนะโปรดแจ้งกับเธอให้ส่งรูปถ่ายเต็มตัว
แบบหันหน้าตรงมาให้ผมโดยด่วน) และคุณก็ทราบดีอยู่แล้วว่า
เลขาคนเก่าของผมลาออกไปอีกแล้ว
ดังนั้น ผมจึงขอให้คุณส่งเธอมาเป็นเลขาส่วนตัวของผมทันทีที่เริ่มงาน
และช่วยแจ้งเธอด้วยว่า แอร์ในห้องผมไม่เย็นนัก เพราะผมเป็นคนขี้หนาว

ดังนั้น วันมาทำงานไม่ต้องแต่งตัวแบบรัดกุมนัก และวันไหนทำงานเลิกดึก

ผมจะมีเงินพิเศษให้ด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ประธานบริษัท



ปล. ช่วยสั่งโชฟายาวในห้องทำงานของผมให้ใหม่ด้วย
เพราะตัวเดิมที่สั่งมาต้นปีนี้ได้พังอีกแล้ว


หวัดดีค่ะ คุนประทานบอษัท


ขอบพะคุนที่ท่านให้ความสนจัยค่ะ ลูปนู๋ แบบหันหน้าตรงค่ะ

ความคิดที่แตกต่าง

What goes through the minds of men and women when someone says “lets go for a drink”





เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ

ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตาก

เมื่อพระเทพฯ ทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชน
ในตลาดสดและถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า 'ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ' แม่ค้าตอบว่า 'ที่สวรรคตแล้ว
กิโลละ 40 บาท และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ'
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

---------------------------------------

เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้านางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก

ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง ทางนางสนอง
พระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วยก็มีเสียงตอบกลับมาว่า

'คนที่แบงค์' นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า

แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่าแต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า

คนที่แบงค์น่ะก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ

............ ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง

------------------------------------

อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง

ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่ว
และใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์
ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า 'ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า
บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้า..' มาถึงตอนสำคัญ
ที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..

พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า 'มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไปทิ้งพระโอรส
ไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว'

เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

-------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น

เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์

ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับ
เจ้าหน้าที่ว่า 'ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์'

--------------------------------------

เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน

และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

ถวายรายงานครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูล

รายงานว่า 'ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ' เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล

อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า'เออ ดี เราชื่อเดียวกัน...

'ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย

เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้

-----------------------------------

มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย

แห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ

แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า

'ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า'ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า

'เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก'

------------------------------------

เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูล ขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
'ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์' ในหลวงทรงตรัสว่า 'ขอเดชะ พระหมดแล้ว '

------------------------------------

วันหนึ่ง พระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด

ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมา

ตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท

แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า 'ยายดีใจเหลือเกินที่
ได้เจอในหลวง' แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย

แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริพาร

ก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่

แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น

ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า

'เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก'

-------------------

ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้วพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวี

มีพระอาการคันมีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์

ก็กราบบังคมทูลว่า 'เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ

อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ' พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า

'ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง'แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า

หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า

เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป ------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯ เล่าให้ฟังว่ามีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการทำให้อ่านขาดตอน

ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า'เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว'และมีอีกปีนึง ขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ... ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป

พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท

ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง เพื่อจะได้มีรูป

ไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุมขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน>** *



เพื่อนฟอเวิร์ดมาให้อ่าน ๆ แล้วก็ยิ้มแหละ เผื่อเพื่อนคนอื่น ๆ หลงมาเจอบล็อกนี้ ก็หวังว่าจะยิ้มนะคะ

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552

วังน้ำเขียว



อันนี้บ่อน้ำ ดูดี ๆ เป็นรูปหัวใจนะ ต้องรอกำลังปรับปรุงก้นบ่อ ไม่ให้น้ำซึมออกจากบ่อ ตอนนี้กำลังเอาน้ำขี้ปูนไปใส่ แต่ต้องใช้เวลา หวังว่าคงจะได้เห็นบ่อนี้แบบสวย ๆ ในอนาคต




อันนี้คือฝายน้ำล้น ขนาดมินิ พี่เขยทำไว้ได้ข้างของพื้นที่ ดูจากรูปสวยดีเหมือนกันวุ๊ย






บ้านของพี่สาวที่วังน้ำเขียว โคราชเด๊อ....... ซื้อไว้กะย้ายไปอยู่ตอนเกษียณ มีอนามัย และโรงเรียน อยู่ใกล้ ๆ น้ำประปาถึง ดู ๆ แล้วที่อยู่ในหุบเขาน่ะ กะว่าถ้าน้ำท่วมกรุงเทพฯ ในอนาคต อย่างน้อยก็มีที่หนีตายกันล่ะ ตัวบ้านเสร็จ แต่เฟอร์นิเจอร์ในบ้านยังไม่ค่อยมี เพราะตังค์หมด แต่มีทีวีและจานดาวเทียมแล้ว

Rayong

ไปพักที่ระยองชาเล่ต์ ได้ห้องพักหน้าชายหาด เงียบมาก อีกวันเลยต้องเช่าเรือสปีดโบ๊ท ไปอีกเกาะ ดำน้ำดูปะการังแต่มองไม่ค่อยเห็น เพราะลมแรง น้ำเลยขุ่น ที่แน่ ๆ เห็นหอยเม่นเยอะมาก เห็นทีไรขนลุกซู่ทุกที วาดภาพไปว่ามันกระเด้งขึ้นมาตำขา อิๆๆๆๆ ขากลับว่าจะแวะสวนนงนุช คนเยอะมากๆๆ เพราะเป็นวันที่ 31 ธ.ค. พอดี แล้วก็ไม่ได้เข้าไปข้างในหรอก เพราะเค้าเก็บค่าผ่านประตู คนไทย 60 บาท ต่างชาติ 400 บาท เลยเสียดายตังค์ แล้วก็คาดว่าคงจะเห็นแต่คน ต้นไม้หรือสวนที่จัดคงจะไม่ได้เห็นเท่าไหร่ เลยมาแวะวัดเขาชีจรรย์แทน มาดูความยิ่งใหญ่ของการสลักรูปพระ พอฝรั่งเห็นก็ถามว่าทำได้ไง เล่าได้เท่าที่จำได้เท่านั้น เพราะไปเดินหาคำบรรยาถึงการสร้าง และวิธี หาไม่เจอว่ะ เซ็งเนะ

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิด ต่างๆ

อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด นื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ ได้

2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่อง ท้อง

3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศ สัมพันธ์ > มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง

4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการ ปวด ตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง

5. มะเร็ง ปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่าง ฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

6. มะเร็ง ตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ ชัด

7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

8. มะเร็ง สมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็น อัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการ เหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือ เป็นเวลานาน

10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้

11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ

12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนา ขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิด ขึ้น ที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกัน แน่

13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่ง มีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิช ชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้

14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด

นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma )คือ เนื้อ งอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

บางปะกง น้ำคงจะขึ้น ๆ ลง ๆ




ไปล่องเรือแม่น้ำบางปะกงมา มีโลมาว่ายวนเวียนให้เห็น แต่มันไม่ยอมกระโดดสูง ๆ เห็นแต่พ่นน้ำออกมาแค่นั้นเอง ผู้รู้บอกว่าปลาโลมาเข้ามากินประดุกทะเล มันงับแต่ตัว ปล่อยหัวปลาดุกลอยตุ๊บป่องในน้ำ ไต้ก๋งเรือก็คอยเล็งว่าหัวปลาดุกอยู่ไหนเอ่ย พอเห็นอะไรดำ ๆ ลอยอยู่ ไต้ก๋งก็ขับเรือเข้าไปดู เราก็จะเห็นโลมาทีละสองสามตัว โผล่พ้นน้ำมาให้เห็น แล้วก็เลยไปเกาะนก เดินรอบเกาะ เห็นฝูงนก และป่าชายเลน มีรูปมาให้ดูนิดหน่อยจ้ะ



Koh Chang



Place : Chang Park Resort & Spa

ไปนอนมา 3 คืน หาดที่ไปเรียกหาดไกเบ้ อยู่เกือบปลายเกาะ คนน้อย หาดดูดีกว่าหาดอื่นมั๊ง เพราะเห็นหาดอื่น มันดูหาดสั้นกว่า ขับรถไปเองจากบ้าน ไปลงเรือเฟอรี่ แล้วขับขึ้นเกาะ แล้วขึ้นเขาลงเขาบนเกาะเพื่อไปที่พักอ่ะแหละ

คาดว่าเที่ยวหน้าถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวแบบนี้อีก อยากจะพาสามีไปเที่ยวเกาะตะรุเตา หรือไปเที่ยวหมู่เกาะในจังหวัดตรัง สวยมากๆๆ ชอบด้วยแล้วคนไม่เยอะจ้า

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

ทำบุญบ้านค่ะ



เหตุเกิดเมื่อ 27 ธันวาคม 2551






รายการอาหารมี มัสหมั่นหมู หมูสเต๊ะ หมี่กรอบ ขนมจีน น้ำยา แกงไก่ แกงจืดหมูสับ



คุณผู้ชายนั่งขัดสมาสก็ไม่ถนัด ขาพับให้เรียบกับพื้นไม่ค่อยได้ ก็พยายามนั่งพับเพียบนะคะ แต่ใช้พื้นที่เยอะมาก


รูปไม่ได้ถ่ายเยอะหรอกนะ นิดหน่อยพอเป็นกษัย เก็บภาพความทรงจำไว้ในใจค่ะ