ต่อไปนี้คือตัวอย่างการพูดภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ให้ฟังฝรั่งพอเข้าใจ ..... อิ อิ
หญิงไทยคนนึง ไปเที่ยวอเมริกา เธอพูด ภาษาอังกฤษพอได้ แต่บางคำศัพท์เธอไม่รู้ เธอต้องการจะซื้อผ้าอนามัย
แต่ไม่รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ เลยบอกกับแคชเชียร์ว่า
Excuse me, Do you have something like napkin
that can stop my blood that are flowing from my pussy?
............................
วันหนึ่งเธอไปทานอาหาร ในร้านฟาสท์ฟู้ด สั่งน้ำมาแก้วนึง แต่พนักงานไม่ได้ให้หลอดดูดมาด้วย
เธอเลยเดินไปที่เคาน์เตอร์
'Excuse me!
May I have something to suck?'
.......................
วันต่อมา เธอเถียงกับฝรั่งอย่างเคร่งเครียด ทางฝรั่งก็ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น เธอคงทนไม่ไหวแล้ว
เธอจึงสั่งฝรั่งด้วยเสียงอันดังว่า
...... SHUT DOWN .......
........................................
ที่พัทยา วันนั้นเป็นวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา สาวเต้นอะโกโก้ เรียกแขกเข้าร้าน ในวันแม่
....
Hello sir !!
today birthday mama Thailand... discount for you thirty percents
.............................
สาวบาร์ มีโอกาส พาฝรั่ง ( หรือฝรั่งพาไป) ไปเที่ยวสวนนงนุช
LOOK AT THAT ...LOOK AT THAT.... IN THE บ่อ... HAVE ห่าน
ดูสิ ดูสิ ในบ่อนั้นมีห่าน
.................................
ฝรั่งแก่กับเด็กหนุ่ม กำลังช็อปปิ้ง
ฝรั่ง : Do you need something else? เด็กหนุ่ม : I need แฟ๊บ
ฝรั่ง : whats??!!
เด็กหนุ่ม : แฟ๊บ แฟ๊บ I need แฟ๊บ ( ทำท่าซักผ้าประกอบ)
..............................
เด็กหนุ่มพาแขกฝรั่งไปกินอาหาร สั่งแกงอ่อม
ฝรั่งถามว่า What's that?
เด็กหนุ่ม : อ่อม ซุป
ฝรั่ง : What?
เด็กหนุ่ม : You. Try one word na you.( ลองซักคำมั๊ย)
ฝรั่ง : What?
...................................
ผู้หญิงไทยแต่งงานกับฝรั่งขี้เมา โดนฝรั่งสามีตีบ่อย ๆ จนทนไม่ไหว
วันหนึ่ง สามีก็จะเข้ามาทำร้ายอีก เธอจึงฮึดสู้ กำมีดไว้ในมือ แล้วตะโกนบอกว่า
No come near .... beautiful sure!
( อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นสวยแน่)
...................................
อ่อ....แถมให้อีกอันนะคับจากประสบการณ์
ที่รัก Beer it's not evening
เบียร์ไม่เย็นจ๊ะที่รัก
วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ฮวงจุ้ยที่นอน
1.เตียงนอนใต้ไฟ
ศีรษะมีไฟส่อง กระสับ กระส่ายไม่สบายตัว
2.เตียงนอนอยู่ใต้คาน
ทำให้ต้องรับภาระหนัก มี เรื่องให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ
3.เตียงนอนมีเสาบังอยู่ทั้ง 2 ข้าง
เหมือนถูกบีบจากเสา และมีแต่เรื่องเครียดอยู่ตลอดเวลา
4.เตียงนอนตรงประตูทางเข้า ออก
ป่วยออดๆ แอดๆ เสมอ
5.เตียงนอนตรงประตูห้องน้ำ
ป่วยด้วยโรค ช่องท้อง!
เช่น มดลูก ท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก อัมพาต
6. เตียงนอนวางลอยๆ กลางห้อง
เหมือนเมรุเผาศพ คนเดินผ่านได้รอบข้างเป็นการจัดวาง
ที่ได้รับอันตรายได้รอบทิศทางถือว่าไม่เป็นมงคล
7.กระจกแผ่นใหญ่ส่องเตียงนอน
จะป่วยง่าย ทำให้ตกใจง่าย เหมือนถูกผีหลอกทั้งๆ ที่เป็นตัวเอง
การป่วยจะเป็นการป่วยเรื้อรัง !
8. วางเตียงนอนไว้ใต้บันได
ถือว่ารับแต่ของสกปรก
หรืออัปมงคลไว้ตลอดเวลา เป็นลักษณะการกดทับแก้ปัญหายาก
9.เตียงนอนหัวเตียงอยู่ใต้แอร์ ส่วน
ศีรษะจะถูกกดทับอยู่ตลอดเวลา
10.มีแฟน นอนบนเตียง
มักจะนอน! ไม่ค่อยหลับสนิท แถมโคลงเคลงไปมา
จะปวดตามบั่นเอว และแน่นหน้าอก จะปวดหน้าขา
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเกร็งช่องท้องเหมือนจะตกจากที่สูง แต่ก็จะรู้สึก สนุกและเสียวไปในตัว
ขณะเดียวกันก็จะรู้สึกมึนหัวคล้ายๆกับว่าจะต้องก้ม
หรือโก้งโค้งอะไรประมาณนั้น
บางครั้งถ้าเฮี้ยนมากๆก็จะละเมอร้องครวญครางออกมาไม่เป็นภาษาคน...
แต่จะมีความสุข แต่ในบางรายที่องค์ลงตัว และจิตอ่อนก็อาจจะมี
อาการท้องบวม เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างใน
และท้องจะโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 9
จะมีกุมารหรือกุมารีน้อยมาคอยปกป้องรักษาจิตใจเราให้ดีขึ้น …
ศีรษะมีไฟส่อง กระสับ กระส่ายไม่สบายตัว
2.เตียงนอนอยู่ใต้คาน
ทำให้ต้องรับภาระหนัก มี เรื่องให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ
3.เตียงนอนมีเสาบังอยู่ทั้ง 2 ข้าง
เหมือนถูกบีบจากเสา และมีแต่เรื่องเครียดอยู่ตลอดเวลา
4.เตียงนอนตรงประตูทางเข้า ออก
ป่วยออดๆ แอดๆ เสมอ
5.เตียงนอนตรงประตูห้องน้ำ
ป่วยด้วยโรค ช่องท้อง!
เช่น มดลูก ท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก อัมพาต
6. เตียงนอนวางลอยๆ กลางห้อง
เหมือนเมรุเผาศพ คนเดินผ่านได้รอบข้างเป็นการจัดวาง
ที่ได้รับอันตรายได้รอบทิศทางถือว่าไม่เป็นมงคล
7.กระจกแผ่นใหญ่ส่องเตียงนอน
จะป่วยง่าย ทำให้ตกใจง่าย เหมือนถูกผีหลอกทั้งๆ ที่เป็นตัวเอง
การป่วยจะเป็นการป่วยเรื้อรัง !
8. วางเตียงนอนไว้ใต้บันได
ถือว่ารับแต่ของสกปรก
หรืออัปมงคลไว้ตลอดเวลา เป็นลักษณะการกดทับแก้ปัญหายาก
9.เตียงนอนหัวเตียงอยู่ใต้แอร์ ส่วน
ศีรษะจะถูกกดทับอยู่ตลอดเวลา
10.มีแฟน นอนบนเตียง
มักจะนอน! ไม่ค่อยหลับสนิท แถมโคลงเคลงไปมา
จะปวดตามบั่นเอว และแน่นหน้าอก จะปวดหน้าขา
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเกร็งช่องท้องเหมือนจะตกจากที่สูง แต่ก็จะรู้สึก สนุกและเสียวไปในตัว
ขณะเดียวกันก็จะรู้สึกมึนหัวคล้ายๆกับว่าจะต้องก้ม
หรือโก้งโค้งอะไรประมาณนั้น
บางครั้งถ้าเฮี้ยนมากๆก็จะละเมอร้องครวญครางออกมาไม่เป็นภาษาคน...
แต่จะมีความสุข แต่ในบางรายที่องค์ลงตัว และจิตอ่อนก็อาจจะมี
อาการท้องบวม เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างใน
และท้องจะโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 9
จะมีกุมารหรือกุมารีน้อยมาคอยปกป้องรักษาจิตใจเราให้ดีขึ้น …
วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
สำหรับสุภาพสตรี
1. เดล็ดลับจากวิชาเทควันโด้ ข้อศอกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย หากถูกทำร้าย หรือกำลังจะถูกทำร้าย และคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์ (ถองกบาลหรือกกหูมันแรงๆ
2. ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำนักท่องเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์ หากถูกโจรจี้และขอกระเป๋าถือหรือ กระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกลๆ เพราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่นอาจสนใจเงิน หรือข้าวของในกระเป๋ามากกว่าตัวคุณมันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไป ทีนี้ก็โกยให้ไว
3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถพยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก จากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่แล้วโบกสุดฤทธิ์ คนขับมองไม่เห็นคุณ แต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ๆ วิธีนี้ช่วยชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว
4. อย่านั่งแช่ในรถสาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง กินข้าว เลิกงาน ฯลฯ สาว ๆ เมื่อก้าวขึ้นรถแล้ว ก็มักจะ นั่งแช่
ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการข้าวของ หรือเรื่องที่จะต้องทำ หรืออื่นๆ ขอเตือนว่าอย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาดผู้ร้ายอาจ กำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่ การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้แหละจะเป็นโอกาสอันงามที่มันจะก้าวขึ้นมานั่งในรถข้างๆ
คุณ เอาปืนจี้แล้ว สั่งให้พาไปไหนต่อไหน เพราะฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไรให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที
5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ
ก. ประสาทตื่นตัว หมั่นสำรวจรอบตัวมองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับพื้นรถรวมถึงเบาะหลังด้วย
ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาส จังหวะที่เหยื่อกำลังเปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้
ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้ายและขวาหากมี ผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้านที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการเดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ ทำงาน แล้วขอให้เจ้าหน้าที่ห้าง หรือ รปภ. หรือ เพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ ปลอดภัยไว้ก่อน ดี กว่าต้องเสียใจทีหลัง(โดนหาว่าประสาทดีกว่า ต้องซี้ม่องเซ็ก)
6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียว รวมทั้งเป็นจุดที่เกิดอาชญากรรมได้ดีที่สุด
7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้.... วิ่งหนี! โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าเคลื่อนที่)
และถึงจะยิงโดน ก็เป็นไปได้มากว่าจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญเพราะงั้นวิ่งลูกเดียว!
8. ผู้หญิงมักใจอ่อน ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจไม่ต้องเลย เพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หรือฆาตกรรมได้
กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้ว ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้ม เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี! มีการศึกษา มักใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิงซึ่งไม่ได้เกิดความสงสัยสักนิด เขาหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจด้วยการเดิน โดยอาศัยไม้เท้า หรือแสร้งทำขากะเผลก จากนั้นจะขอ 'ความช่วยเหลือ'จากเหยื่อให้ช่วยพยุงขึ้นรถ จากนั้นก็ใช้จังหวะนั้นลักพาตัวไป
9. จากหนังสือภัยจาก 108 มงกุฏ เมื่อคุณกลับบ้านในเวลากลางคืน หากถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ฯลฯ เวลาร้องขอความช่วยเหลือให้ร้องว่า 'ไฟไหม้'แทนคำว่า'ช่วยด้วย' เพราะคำว่าไฟใหม้จะทำให้ชาวบ้านในระแวกนั้นตกใจตื่นและ! ออกมาดูสถานการณ์ได้เร็วกว่า
พึงระลึกอยู่เสมอว่า 'โลกใบนี้มีคนวิกลจริตอาศัยอยู่มาก ... ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเสียใจภายหลัง'
2. ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำนักท่องเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์ หากถูกโจรจี้และขอกระเป๋าถือหรือ กระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกลๆ เพราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่นอาจสนใจเงิน หรือข้าวของในกระเป๋ามากกว่าตัวคุณมันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไป ทีนี้ก็โกยให้ไว
3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถพยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก จากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่แล้วโบกสุดฤทธิ์ คนขับมองไม่เห็นคุณ แต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ๆ วิธีนี้ช่วยชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว
4. อย่านั่งแช่ในรถสาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง กินข้าว เลิกงาน ฯลฯ สาว ๆ เมื่อก้าวขึ้นรถแล้ว ก็มักจะ นั่งแช่
ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการข้าวของ หรือเรื่องที่จะต้องทำ หรืออื่นๆ ขอเตือนว่าอย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาดผู้ร้ายอาจ กำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่ การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้แหละจะเป็นโอกาสอันงามที่มันจะก้าวขึ้นมานั่งในรถข้างๆ
คุณ เอาปืนจี้แล้ว สั่งให้พาไปไหนต่อไหน เพราะฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไรให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที
5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ
ก. ประสาทตื่นตัว หมั่นสำรวจรอบตัวมองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับพื้นรถรวมถึงเบาะหลังด้วย
ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาส จังหวะที่เหยื่อกำลังเปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้
ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้ายและขวาหากมี ผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้านที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการเดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ ทำงาน แล้วขอให้เจ้าหน้าที่ห้าง หรือ รปภ. หรือ เพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ ปลอดภัยไว้ก่อน ดี กว่าต้องเสียใจทีหลัง(โดนหาว่าประสาทดีกว่า ต้องซี้ม่องเซ็ก)
6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียว รวมทั้งเป็นจุดที่เกิดอาชญากรรมได้ดีที่สุด
7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้.... วิ่งหนี! โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าเคลื่อนที่)
และถึงจะยิงโดน ก็เป็นไปได้มากว่าจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญเพราะงั้นวิ่งลูกเดียว!
8. ผู้หญิงมักใจอ่อน ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจไม่ต้องเลย เพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หรือฆาตกรรมได้
กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้ว ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้ม เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี! มีการศึกษา มักใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิงซึ่งไม่ได้เกิดความสงสัยสักนิด เขาหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจด้วยการเดิน โดยอาศัยไม้เท้า หรือแสร้งทำขากะเผลก จากนั้นจะขอ 'ความช่วยเหลือ'จากเหยื่อให้ช่วยพยุงขึ้นรถ จากนั้นก็ใช้จังหวะนั้นลักพาตัวไป
9. จากหนังสือภัยจาก 108 มงกุฏ เมื่อคุณกลับบ้านในเวลากลางคืน หากถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ฯลฯ เวลาร้องขอความช่วยเหลือให้ร้องว่า 'ไฟไหม้'แทนคำว่า'ช่วยด้วย' เพราะคำว่าไฟใหม้จะทำให้ชาวบ้านในระแวกนั้นตกใจตื่นและ! ออกมาดูสถานการณ์ได้เร็วกว่า
พึงระลึกอยู่เสมอว่า 'โลกใบนี้มีคนวิกลจริตอาศัยอยู่มาก ... ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเสียใจภายหลัง'
วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)