วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552

มีเหตุผลทั้งคู่

แด่ภรรยาสุดที่รัก

ตลอดปีที่ผ่านมา ผมพยายามฝากรักกับคุณถึง 365 ครั้ง
คือทุกวันเชียวหละ แต่ผมก็ทำได้แค่ 36 ครั้ง
คือเฉลี่ยประมาณ 10 วันต่อครั้งเท่านั้น
เพราะอะไรผมจึงทำงานไม่เข้าเป้า ?
ต่อไปนี้คือเหตุผล

54 ครั้ง เอาผ้าปูที่นอนไปซัก
17 ครั้ง คุณเข้านอนดึก ทำให้ไม่มีเวลาพอ
49 ครั้ง คุณบ่นว่าเพลียมาก
20 ครั้ง บอกว่าอากาศร้อนเกินไป
15 ครั้ง คุณแกล้งทำเป็นหลับ
22 ครั้ง คุณบอกว่าปวดหัว
17 ครั้ง คุณกลัวว่าจะทำให้ลูกตื่น
16 ครั้ง คุณบอกว่ายังระบมไม่หาย
12 ครั้ง ตรงกับช่วงต้องห้าม ประจำเดือนคุณมา
19 ครั้ง คุณต้องตื่นแต่เช้ามืด กลัวเพลียเดี๋ยวตื่นไม่ไหว
9 ครั้ง คุณบอกว่าคืนนี้ไม่มีอารมณ์
7 ครั้ง ผิวถูกแดดเผา คุณบอกว่าแสบจนแตะเนื้อต้องตัวไม่ได้
6 ครั้ง คุณกำลังเพลินกับรายการดึกทางโทรทัศน์ ห้ามรบกวน
5 ครั้ง คุณไม่ยอม เพราะกลัวผมที่ทำมาใหม่ๆจะยุ่งเสียทรง
3 ครั้ง คุณบอกว่ากลัวเพื่อนบ้านจะได้ยินเสียงเวลาเราเมคเลิฟกัน
9 ครั้ง คุณบอกว่า เดี๋ยวแม่จะได้ยิน

และ 36 ครั้งที่ผมทำได้สำเร็จนั้น ก็ใช่ว่าจะได้ผลเป็นที่พอใจไม่ เพราะ :
6 ครั้ง คุณเอาแต่นอนเฉยๆเป็นท่อนซุง
8 ครั้ง คุณเอาแต่คอยเตือนให้ผมระวังเรื่องเพดานมีรอยแยก เดี๋ยวคนอยู่ข้างบนจะแอบดู
4 ครั้ง คุณเร่งให้ผมรีบๆทำจะได้เสร็จเร็วๆ
7 ครั้ง ผมต้องคอยปลุกคุณ บอกให้รู้ว่าผมเสร็จแล้วนะ
1 ครั้ง ผมกลัวว่าจะทำให้คุณเจ็บ เพราะรู้สึกว่าคุณขยับตัว

แด่สาม ีสุดที่รัก ฉันคิดว่าคุณออกจะสับสนไปหน่อยกระมัง
ต่อไปนี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณถึงไม่สามารถทำให้ได้มากกว่านั้น

5 ครั้ง คุณเมาแอ๋กลับบ้าน แล้วพยายามไปเย่อกับแมว
36 ครั้ง คุณไม่ได้กลับบ้านเลย
21 ครั้ง คุณพยายามแล้วแต่จบไม่ลง เพราะอ่อนปวกเปียกเสียก่อน
33 ครั้ง แป๊ปเดียวคุณก็หลั่งเสียก่อนแล้ว
19 ครั้ง เจ้าน้องชายของคุณอ่อนแอ จนมุดเข้าไปไม่ได้
38 ครั้ง คุณทำงานอยู่จนดึก
10 ครั้ง คุณเกิดตะคริวกินที่นิ้วเท้าเสียก่อน
29 ครั้ง คุณอ้างว่าต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปเล่นกอล์ฟ
2 ครั้ง คุณเกิดไปมีเรื่องนอกบ้าน แล้วถูกเตะผ่าหมากกลับมา
4 ครั้ง คุณดันรูดซิบไปติดเจ้าน้องชายเข้า
3 ครั้ง คุณเป็นหวัด น้ำมูกไหลตลอดเวลา จนไม่เป็นอันได้ทำอะไร
20 ครั้ง คุณลืมสิ่งที่คิดจะทำ ทั้งๆที่คิดเอาไว้ตลอดทั้งวัน
6 ครั้ง คุณหลั่งเลอะเทอะกางเกงนอนเสียก่อน ตอนอ่านหนังสือโป๊
98 ครั้ง คุณเอาแต่ดูการถ่ายทอดฟุตบอล กอล์ฟ ฯลฯ ทางโทรทัศน์

และที่บอกว่าพอมีอะไรกันได้ ฉันก็ยังทำให้คุณผิดหวังอีกนั้นขอบอกเหตุผลดังนี้:
เหตุผลที่ฉันนอนเฉยก็เพราะตอนนั้น คุณทิ่มผิดที่ คุณกำลังทำอยู่กับที่นอนรู้ไว้เสียด้วย
ฉันไม่ได้พูดถึงรอยแยกบนเพดาน ที่พูดในตอนนั้นคือรอยแยกของฉัน
ฉันเตือนให้เอาเข้าถูกร่องถูกรอยนั่นต่างหาก
และตอนที่คุณรู้สึกว่าฉันกำลังขยับตัว นั่นก็เพราะคุณดันผายลมออกมา
ฉันเลยต้องกลั้นลมหายใจน่ะสิ

ถ้าอ่านวันอาทิตย์
ภาวนาขอให้โชคดีตลอดสัปดาห์

ถ้าอ่านวันจันทร์ ภาวนาขอให้มีโชคลาภทางการเงิน
ถ้าอ่านวันอังคาร ภาวนาเรื่องความรัก
ถ้าอ่านวันพุธ ภาวนาขอความสำเร็จด้านการเงิน
ถ้าอ่านวันพฤหัสฯ ภาวนาขออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ
ถ้าอ่านวันศุกร์ ภาวนาขอให้ได้สุขสมรักแบบสุดๆ

ถ้าอ่านวันเสาร์ ภาวนาขอให้ได้รับโทรศัพท์ครั้งสำคัญที่กำลังรออยู่
ภาวนาเสร็จให้รีบส่งต่อ ไม่เช่นนั้นคำภาวนาอาจเป็นหมันนะ...

New Age Technology



Good Morning sista'

sista'


Life is too short to wake up with regrets. So love the people who treat you right. Love the ones who don't just because you can. Believe everything happens for a reason. If you get a second chance, grab it with both hands. If it changes your life, let it. Kiss slowly. Forgive quickly. God never said life would be easy. He just promised it would be worth it.





Today is sister's day, send this to all your sisters, mothers, daughters, girlfriends even me if I am like one.If you get back 7 , you are loved. Happy Siste r's Da y!



I LOVE YA SISTA'!!! :-)



Girlfriend and Sister's Week
I am only as strong as the coffee I drink, the hairspray I use and the friends I have To the cool women that have touched my life. Here's to you!



National Girlfriends Day
What would most of us do without our sisters, confidants and shopping, lunching, and traveling girls? Let's celebrate each other for each other's sake!
TO MY GIRLFRIENDS!




If you get this twice you know you have more than one girlfriend. Be Happy!

PLEASE PASS THIS ON TO ALL OF YOUR GIRLFRIENDS AND RETURN IT TO THE FRIEND WHO SENT IT TO YOU!It is good be a woman:

หมายเหตุ ชอบรูปนี้ม๊ากกกมากกก

วัยไม่ใช่อุปสรรค‏

ใครจะรุ่นอะไร แล้วจะปะทะกับรุ่นไหนกัน ลองดู

หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน คือ การที่คนหลายรุ่นหลายวัยหลายความคิด ต้องมาทำงานร่วมกัน ความแตกต่างระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของประสบการณ์ มักนำมาซึ่งความไม่เข้าใจกัน..จนก่อตัวเป็นความขัดแย้งในที่สุด

บางทีความแตกต่าง คือ กุญแจแห่งความสำเร็จ เพียงขอเปิดใจทำความรู้จักคนแต่ละรุ่นให้ลึกซึ้งก็จะได้พบโลกใบใหม่ที่งดงาม หลากหลาย และหากเลือกที่จะสื่อสารได้อย่างถูกช่องถูกกลุ่ม ก็อาจจะได้อะไรใหม่ ๆ คาดไม่ถึง

ใครเป็นใครในที่ทำงาน
เราจะแบ่งรุ่นของคนทำงานในที่ทำงานให้ชัด ๆ ก่อน โดยจำแนกจากช่วงปีเกิด ซึ่งจะสัมพันธ์กับประสบการณ์ในช่วงเติบโต ทำให้เห็นยุคสมัยที่หล่อหลอมความคิดของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น

กลุ่มลายคราม : คนที่เกิดก่อนปี 2488
ลายคราม...ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา หรือเป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ คนกลุ่มนี้จะมีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานอันยาวนานของพวกเขานั่นเอง คนกลุ่มนี้จะเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติ จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มีทรัพยากรที่จำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน มักมีคุณลักษณะที่มั่นคงเชื่อใจได้ สู้งานหนัก ใช้จ่ายอย่างรู้คิด และภักดีต่อองค์กรสูง

กลุ่ม Baby Boom : คนที่เกิดช่วงปี 2499 – 2507
หลังสงครามยุติ ประเทศเข้าสู่ความสงบ การรณรงค์คุมกำเนิดยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดพลเมืองตัวน้อย ๆ ขึ้นมากมาย Baby Boom เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน ยิ่งเมื่อประเทศกำลังพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ยุคความเป็นอุตสาหกรรม Baby Boom ก็ยิ่งจำเป็นต้องทำงานหนักมากขึ้น เต็มเหยียดวันละ 8 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์
ลูกจ้าง Baby Boom มักเคยชินต่อการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้นายจ้างยอมรับในศักยภาพ การจะก้าวไปสู่ตำแหน่งใหญ่นั้น ต้องใช้เวลาและแรงผลักดันอย่างสูง

กลุ่ม Generation–X : คนที่เกิดช่วงปี 2508 – 2523
Generation–X ลืมตาดูโลกในช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่งยานอวกาศออกไปนอกโลกได้สำเร็จ ของเล่นสุดฮิตของเด็กรุ่นจึงไม่ใช่ม้าโยก หรือตุ๊กตาหมีอีกต่อไป แต่เป็นวิดีโอเกม เกมกด และ Walkman พวกเขาเติบโตมาในยุครอยต่อของ A nalog กับ Digital อยู่ท่ามกลางเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ทว่าที่สังคมเปลี่ยนแปลงในทางวัตถุนี้ กลับทำให้สถาบันค รอบครัวสั่นคลอน ความภักดีต่อองค์กรของคนรุ่นนี้จึงคลายลงมาก นำมาสู่การลาออก และเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น

ไม่แปลกที่ชาว Baby Boom ผู้ไม่เคยเกี่ยงที่จะทำโอทีจนดึกดื่น จะอึ้งที่ชาว Generation–X ปฏิเสธการทำงานล่วงเวลา หรือลาออกไปหางานใหม่หน้าตาเฉยหากไม่พอใจ

ทั้งนี้เพราะ Generation–X เชื่อว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

กลุ่ม Millennium : คนที่เกิดปี 2524 เป็นต้นมา
Millennium คือ กลุ่มคนทำงานหน้าใหม่ไฟแรง แต่ยังอ่อนต่อประสบการณ์ บางคนอาจยังเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำ หรือบางคนมีแผนที่จะเรียนต่อ ชาว Millennium โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงระบบการศึกษาที่เริ่มให้ความสำคัญกับการคิดมากกว่าการท่องจำ
ชาว Millennium จะมีพ่อแม่ที่มีความรู้สูง จึงให้การสนับสนุนให้ Millennium ได้เสริมทักษะด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เด็ก ฉะนั้น Millennium จึงชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และสนุกกับการทำงานเป็นทีม ไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบเงื่อนไข
ในขณะนี้ ชาว Generation-X เปลี่ยนงานครั้งที่ 12 เพื่อเป็นผู้บริหารระดับสูงกินเงินเดือนเรือนแสน แต่ชาว Millennium จะลาออกไปเริ่มธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง

สลายช่องว่างสร้างความเข้าใจ

เมื่อเข้าใจอย่างท่องแท้แล้วว่า ใครมีค่านิยมในชีวิตอย่างไร ใคร ๆ ก็สามารถสร้างสะพานข้ามช่องว่าง เพื่อข้ามไปหากันได้

สูตรสร้างสะพานข้ามช่องว่าระหว่างวัยมีอยู่ 3 ขั้นตอน

1. เข้าใจถึงความแตกต่าง ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อ หรือทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนคุณ เขาไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป

2. ชื่นชมจุดดี แทนที่จะต่อต้าน ให้เราลองมองหาจุดเด่นของคนในแต่ละกลุ่มให้พบ

3. บริหารความแตกต่าง เปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มที่เราต้องทำงานด้วย

ทำงานกับกลุ่มลายคราม

จงให้เกียรติและให้ความเคารพอย่างสูงต่อพวกเขา เมื่อคุณให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะให้เกียรติคุณ แล้วถ้าบังเอิญคุณมีตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา จงแสดงความชื่นชมต่อเขาในด้านการเป็นเสาหลักขององค์การ และจงรับฟังเมื่อพวกเขาถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีต การต่อสู้ ความพากเพียรในการทำงานจนผ่านพ้นความยากลำบากมาได้ เพราะสิ่งนั้นคือ สิ่งที่คนรุ่นหลังไม่มี และไม่รู้จัก อย่ามองว่า..กลุ่มลายครามคือ หมาล่าเนื้อไม่มีที่ไป แต่การที่พวกเขาทำงานอยู่จนถึงวัยเกษียณนั้น เป็นเพราะพวกเขา เชื่อในคุณค่าของความมั่นคง และถือความซื่อสัตย์เป็นที่สุด

ทำงานกับกลุ่ม B aby Boom

จงแสดงความนับถือ รับฟัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Baby Boom แล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะเก่งกาจแค่ไหน หรือคุณจะประสบความสำเร็จเพียงใจ คุณก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนัก คือ การถูกเอาเปรียบ เพราะ Baby Boom ให้ความสำคัญต่อหลักการทำงาน ยึดถือวัฒนธรรมองค์การ และเห็นคุณค่าต่อการทำงานอย่างทุ่มเท หากต้องทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งบริหารงานโดย Baby Boom ควรพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรเสียก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะเสนอความคิดริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แก่ Baby Boom

ทำงานกับกลุ่ม Generation–X

ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจนและไม่อ้อมค้อม เพราะ Generation–X ชอบความตรงไปตรงมา คุณสามารถใช้ Email กลับคนกลุ่มนี้ได้ หากคุณสามารถสื่อสารได้ใจความและตรงเป้าหมาย หากเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ควรพูดต่อหน้า เพราะ Generation–X ไม่ชอบถูกบงการ ผู้ใหญ่แค่ให้นโยบายกว้าง ๆ เปิดโอกาสให้เขาได้แก้ปัญหาเองจะดีที่สุด ส่วน Baby Boom ควรลดความคาดหวังต่อ Generation–X ในการทำงานหนักอย่างหนักโดยไม่มีวันหยุด หรือก้าวไปอย่างช้า ๆ อย่างรุ่นตน เพราะ Generation–X ต้องการชีวิตที่สมดุล ไม่ชอบการอยู่ติดที่

ทำงานกับกลุ่ม Millennium

ลองท้าทายพวกเขาด้วยภารกิจใหม่ ๆ Millennium จะชอบความเป็นคนสำคัญ การเพิ่มความรับผิดชอบ เสมือนการให้คำชม จงเปิดโอกาสให้ Millennium ได้แสดงความคิดเห็นของเขา เห็นพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในทีม ผู้ใหญ่ที่ยอมรับความคิดเขา ก็จะได้รับการยอมรับจากพวกเขาเช่นกัน Millennium ชอบให้คุณแสดงออกต่อสิ่งที่พวกเขาทำทุกขณะจิต เพราะความรู้สึกและความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน มีผลต่อพวกเขามาก

แค่เข้าใจ..ทุกอย่างก็ลงตัว

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2552

"วันก่อนคับ"

อ่านคลายเครียดหน้าร้อนเด๊อ

a: วันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปสยามมาคับ
b: แล้วไงวะ
a: เดินผ่านหญิง เค้าหันกลับมามองเลยคับ
b: โห เมิงหล่อมาก !
a: ป่าวคับ เหยียบตีนเค้า

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปเที่ยวกลางคืนมาคับ
b: เออ เปนงัยวะ
a: หิ้ว ญ กลับมาคนนึงคับ
b: โหย เปยงัยวะ
a: นม งี้ดูไม่ได้เลยคับ
b: เห้ยทำนมหรอวะ
a: เค้าไม่ให้ดู คับ

a : แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: เมาเหล้าคับ
b: เหย ธรรมดาๆ
a: แล้วปวดฉี่ คับ
b: แล้วทำไงวะ
a: เลยไปฉี่ตรงศาลพระภูมิ
b: เห้ย แล้วไหว้รึป่าว
a: กลับมาจู๋บวมเลยคับ
b: เมิงไม่ไหว้อะดิ
a: ซิบหนีบจู๋ คับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: วาเลนไทน์คับ
b: เปนไงๆ
a: ผู้หญิงที่คณะวิ่งถือดอกไม้มาหาผม ทุกคนเลย
b: โห เมิงป๊อปมากเลยนะเนี่ย
a: ป่าวคับ เค้าเอามาขาย

a: แล้ววันก่อนคับb: ทำไมวะ
a: ไปคัดตัวนักวิ่งมาคับb: เออ เปนงัยวะ
a: 100 ม. ผมวิ่งได้ 4 วิ คับ
b: โห หยั่งงี้ติดทีมชาติเลยนะเนี่ย
a: วิที่ 5 ล้มคับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: พ่อพาผมไปโรงพัก
b: เออ แล้วไงต่อๆ
a: คนไหว้พ้อผมทั้งสน.เลยคับ
b: โห พ่อเมิงใหญ่มากเลย
a: พ่อเป็นพระคับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปบ้านเพื่อนมาคับ
b: แล้วไงต่อวะ
a: เหนแม่เพื่อนถือถาดมาให้
b: แม่มาเสิร์ฟน้ำเลยหรอวะ
a: ขายลอตตารี่คับ

ริมน้ำเจ้าพระยา

รูปนี้ถ่ายมาฝากเพื่อนที่อยู่ต่างแดน ได้เห็นว่าบ้านเราพัฒนาไปเยอะมาก ถ่ายได้เพราะพาแม่ไปหาหมอสลายต้อกระจก ขากลับรถน้อยก็เลยหยิบกล้องออกมาถ่าย สิบล้อตามมาช้า ๆ แหละ ส่วนอีกสะพานด้านล่างสุดนู้นๆๆๆๆ เป็นอีกสะพานนึง แต่ยังไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะส่วนใหญ่เป็นพลขับ แล้วรถมาใช้บริการเยอะมาก ถ้ามีโอกาสจะถ่ายมาเผื่อ สะพานนั้นขับผ่านช้างสามเศียรด้วยแหละ



ตรงนี้เป็นทางแยก ๆ ขวาไปลงพระราม 3 ส่วนแยกซ้ายไปลงถนนสุขสวัสดิ์ ทางกลับวังดิฉัน......









วิวนี้ถ่ายได้เพราะนั่งเรือโดยสารข้ามฟากไปตลาดสด ซื้อของกิน (แบบดั้งเดิม)

มาดูตรงนี้สิ...... มันเป็นถิ่นเก่าเมื่อสมัยละอ่อน โรงเรียนของเดี๊ยนอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นชีวิตริมน้ำ โรงเรียนซึ่งเรียนตั้งแต่อนุบาล ยันประถม 7
ที่เห็นคือตึกโรงเรียนซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ส่วนโดมที่เห็นเป็นโบสถ์คาทอลิก


อันนี้เรือข้ามฟาก สำหรับขนรถ ตอนนี้คนใช้บริการน้อยลงหลังจากสะพานเสร็จ กว่าจะได้สะพานมานานมาก เจ้าแม่เรือข้ามฟาก คงไม่อยากจะยอมแหละ
(เค้าว่ากัน) ที่ยอมเพราะเป็นโครงการในพระราชดำริห์.....ในหลวงของเรา


เห็นบรรยากาศเก่า ๆ บ้านริมน้ำ เรือขนส่งวิ่งผ่านเพื่อไปจอดที่ท่าคลองเตย






สะพานแขวนอันนี้เป็นอันใหม่ ที่บอกว่าเป็นทางด่วนจากบางนา ไปลงพระราม 2 ถ้าจากบ้านไปบ้านพี่ป้อมก็แค่ 20 นาที ตอนนี้เปิดให้ใช้ฟรี ทางขึ้น - ลง ตรงด่านเก็บเงินยังไม่เสร็จ ๆ เมื่อไหร่เสียตังค์แน่นอน

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

Easy Engling!!! (Fun)

ต่อไปนี้คือตัวอย่างการพูดภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ให้ฟังฝรั่งพอเข้าใจ ..... อิ อิ


หญิงไทยคนนึง ไปเที่ยวอเมริกา เธอพูด ภาษาอังกฤษพอได้ แต่บางคำศัพท์เธอไม่รู้ เธอต้องการจะซื้อผ้าอนามัย
แต่ไม่รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ เลยบอกกับแคชเชียร์ว่า

Excuse me, Do you have something like napkin
that can stop my blood that are flowing from my pussy?

............................
วันหนึ่งเธอไปทานอาหาร ในร้านฟาสท์ฟู้ด สั่งน้ำมาแก้วนึง แต่พนักงานไม่ได้ให้หลอดดูดมาด้วย
เธอเลยเดินไปที่เคาน์เตอร์

'Excuse me!
May I have something to suck?'
.......................
วันต่อมา เธอเถียงกับฝรั่งอย่างเคร่งเครียด ทางฝรั่งก็ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น เธอคงทนไม่ไหวแล้ว
เธอจึงสั่งฝรั่งด้วยเสียงอันดังว่า
...... SHUT DOWN .......
........................................
ที่พัทยา วันนั้นเป็นวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา สาวเต้นอะโกโก้ เรียกแขกเข้าร้าน ในวันแม่
....

Hello sir !!
today birthday mama Thailand... discount for you thirty percents

.............................
สาวบาร์ มีโอกาส พาฝรั่ง ( หรือฝรั่งพาไป) ไปเที่ยวสวนนงนุช
LOOK AT THAT ...LOOK AT THAT.... IN THE บ่อ... HAVE ห่าน
ดูสิ ดูสิ ในบ่อนั้นมีห่าน
.................................
ฝรั่งแก่กับเด็กหนุ่ม กำลังช็อปปิ้ง

ฝรั่ง : Do you need something else? เด็กหนุ่ม : I need แฟ๊บ
ฝรั่ง : whats??!!
เด็กหนุ่ม : แฟ๊บ แฟ๊บ I need แฟ๊บ ( ทำท่าซักผ้าประกอบ)
..............................
เด็กหนุ่มพาแขกฝรั่งไปกินอาหาร สั่งแกงอ่อม

ฝรั่งถามว่า What's that?
เด็กหนุ่ม : อ่อม ซุป
ฝรั่ง : What?
เด็กหนุ่ม : You. Try one word na you.( ลองซักคำมั๊ย)
ฝรั่ง : What?
...................................
ผู้หญิงไทยแต่งงานกับฝรั่งขี้เมา โดนฝรั่งสามีตีบ่อย ๆ จนทนไม่ไหว
วันหนึ่ง สามีก็จะเข้ามาทำร้ายอีก เธอจึงฮึดสู้ กำมีดไว้ในมือ แล้วตะโกนบอกว่า

No come near .... beautiful sure!

( อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นสวยแน่)
...................................

อ่อ....แถมให้อีกอันนะคับจากประสบการณ์

ที่รัก Beer it's not evening
เบียร์ไม่เย็นจ๊ะที่รัก